วันจันทร์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2562

📷การเลือกเนื้อผ้า
โดยทั่วไปแล้วเวลาเราไปซื้อเสื้อผ้าตามท้องตลาด เวลาเราจับเนื้อผ้าหลายคนอาจจะรู้สึกว่าเนื้อผ้าแตกต่างกันไปมากมาย เราจะมาเฉลยความสงสัยนี้ไปพร้อม ๆ กันก่อนเลย สิ่งแรกที่เราต้องรู้เกี่ยวกับผ้า Cotton หรือ ผ้าฝ้าย คือ เวลาที่ผ้าถูกทอออกมา ขนาดของเส้นด้ายจะไม่เหมือนกัน จึงมีการแบ่งเบอร์เรียก โดยทั่วไปได้ 3 เบอร์ คือ 20,32,40 ตามลำดับ สำหรับเบอร์เส้นด้ายที่สูงเกิน 40 ขึ้นไปจะพบเห็นได้ไม่มากนักในท้องตลาด ส่วนใหญ่จะเป็นผ้าที่ต้องสั่งทอขึ้น เนื่องจากกระบวนการในการผลิตต้องอาศัยเครื่องจักรและการผลิตที่ยุ่งยากซับซ้อน จึงมีต้นทุนที่สูงในการผลิต ถ้าเบอร์น้อยจะใช้ด้ายเส้นใหญ่ เบอร์มากใช้ด้ายเส้นเล็ก เช่นผ้า Cotton 100% เบอร์ 20 เนื้อผ้าจะมีความหนามากกว่าเบอร์ 32 เนื่องจากขนาดเส้นด้ายที่ใหญ่กว่า เบอร์ 20 จะนิยมนำไปผลิตเป็นเสื้อโปโล แต่ถ้าเป็นเสื้อยืดนั้น โดยส่วนใหญ่ในประเทศไทยนี้ที่นิยมนำมาผลิตเป็นเสื้อยืดที่เราสวมใส่กันมากที่สุด จะเป็นเบอร์ 32 เพราะใส่แล้วสบายที่สุด เหมาะกับสภาพอากาศในประเทศไทย เพราะระบายอากาศได้ดีกว่าเบอร์อื่นๆ ส่วนเบอร์ 40 มักจะนำมาทำเสื้อผ้าสำหรับเด็กอ่อน หรือเสื้อที่ต้องการเน้นความบางเป็นพิเศษ โดยเสื้อยืดแบรนด์เนมบางยี่ห้อและบางรุ่น จะเป็นเบอร์ที่สูงกว่า 40 เป็นเนื้อผ้าที่ต้องสั่งทอขึ้นเป็นพิเศษ
  และสำหรับวิธีการดูว่าผ้านั้นๆ เป็นผ้า cotton 100% หรือว่าเนื้อผสม หากเราไม่มีความชำนาญ หรือไม่อาศัยความเชี่ยวชาญ ก็ต้องใช้การเผาปลายผ้า ซึ่งจะเป็นวิธีที่แม่นยำที่สุด หากผ้าติดไฟ ไม่มียาง ไหม้เหมือนกระดาษ เถ้ามีสีเทา นุ่ม เปลวไฟที่ได้เป็นสีแดงแสดงว่าเป็นผ้าฝ้ายหรือผ้า cotton 100 % แน่นอน แต่ส่วนใหญ่แล้ววิธีนี้ จะนิยมเอาไว้ใช้กับผู้ผลิต ที่จะไปซื้อผ้าจากร้านมากผลิตเพื่อจำหน่ายเท่านั้น
📷📷

📷ขั้นตอนการผลิตเสื้อยืด
ขั้นตอนแรกของการผลิตเสื้อยืด ก็คงจะเป็นการเลือกซื้อผ้าตามตลาดผ้า โดยขอแนะนำเป็นที่สุขสวัสดิ์ 35 หรือที่ในกลุ่มคนทำเสื้อจะรู้จักกันดีในชื่อ ซอยวัดสน ซึ่งที่นี่จะมีผ้าให้เลือกมากมายกว่า 100 ร้าน เราสามารถเดินหาร้านที่มีผ้าตามที่เราต้องการได้ สอบถามราคาแต่ละร้านให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อ เพราะส่วนมากราคาผ้าในแต่ละร้านจะไม่เท่ากัน แม้ว่าจะเป็นผ้าชนิดเดียวกันก็ตาม และบางร้านก็อาจจะไม่แบ่งขายผ้าให้เรา โดยจะเป็นการขายในจำนวนมาก สำหรับการผลิตของโรงงานใหญ่ๆเพียงอย่างเดียว แต่ก็จะมีบางร้านที่แบ่งขาย ตั้งแต่จำนวนไมมาก สำหรับผลิตเสื้ออย่างน้อย 3 ตัวขึ้นไป เพราะราคาผ้าจะคิดตามสีและน้ำหนัก เช่น อย่างน้อย 1 กิโล สำหรับผ้าบางชนิเดก็จะนำไปตัดเป็นเสื้อยืดได้ 3 ตัว สำหรับตรงนี้เราจะยกตัวอย่างเป็นผ้า cotton 100% no.32 เป็นตารางอธิบาย

 
สีผ้า

ราคาต่อ 1 กิโล

ราคาต่อพับ/22 กิโล
สีขาว

235

3,960
สีอ่อน

245

4,180
สีเข้ม

250

4,400
สีพิเศษ

260

4,620
อ้างอิงราคาจากร้าน จุ้บ (วัดสน) 081-412-2611

เช่น หากสีที่เราเลือกคือสีขาว โดยสำหรับผ้าชนิดนี้ 1 กิโลจะสามารถทำเสื้อได้ถึง 4-5 ตัว แต่ก็ต้องแล้วแต่ขนาดของเสื้อและน้ำหนักของผ้าที่เราจะตัดด้วย ซึ่งตัวอย่างในวันนี้จะเป็นเสื้อฟรีไซต์หรืออกประมาณ 40 ซ.ม. ยาว 26 ซ.ม. เป็นขนาดมาตราฐานทั่วไปที่นิยมใช้กัน ซึ่ง 1 กิโลตัดได้ 5 ตัว

ซึ่งหลังจากเราได้ผ้ามาแล้ว สิ่งที่เราต้องทำต่อไปคือหาร้านตัดผ้า โดยร้านตัดผ้าจะมีหลายร้านหลายราคาต่างกันไป เช่นเดียวกับร้านจำหน่ายผ้า นอกจากเราจะติดต่อเรื่องราคาแล้ว สิ่งสำคัญอีกอย่างคือเราจะต้องตกลงเรื่องวันนัดรับงาน และรายละเอียดในการตัด ให้ดีก่อน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมาในภายหลัง เช่น ไม่ได้เสื้อตามเวลาที่กำหนด หรือผิดจากแบบที่ต้องการ เพราะโดยทั่วไปจะใช้เวลาในการตัดและผลิตเสื้อ ขั้นต่ำคือประมาณ 15 วันขึ้นไป ถ้าหากเกิดความผิดพลาด เราจะต้องเสียเวลามากในการแก้ไข ซึ่งเป็นปัญหาที่พบได้บ่อย ดังนั้นจึงควรกำหนดรายละเอียดต่างใหดีก่อนเสมอๆ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น